9/27/2009

ตัวแทนจาก HELPSCHOOLเดินทางไปตรวจเยี่ยมการก่อสร้างบ้านพักเด็กกำพร้าและมอบสิ่งของที่จำเป็นให้เด็กๆ HELPSCHOOL third Trip

เมฆเริ่มก่อตัว

เมฆฝนมาแล้วครับ

ฝนกำลังมาครับ

เดินกลับบ้านกันครับ


เณรสองรูปนี้ก็ต้องฝ่าสายฝนกลับวัดครับ


หนูน้อยกับร่มคันโปรด


ฝนตกที่บนดอย ที่เห็นเป็นสนามหน้าอาคารเรียนครับ


ฝากรอยยิ้มให้พี่ๆครับ


ถ่ายรูปหมู่เสร็จแล้ว บอกให้ถอดเก็บไว้ก็ไม่ยอมถอดกันครับ


เณรรูปนี้เลือกเสื้อกันฝนสีแดง ท่านก็ไม่ค่อยเห่อเท่าไหร่เลยครับ



ได้รับเสื้อกันฝนทุกคนเลยครับ


จับปูใส่กระด้ง ก่อนถ่ายรูปหมู่












เด็กๆเห่อระฆังกันมาก เพราะที่โรงเรียนไม่เคยมีระฆังใช้ครับ


ระฆังใบนี้สนับสนุนโดย พี่บูรณ์ Inflight Service Manager ของเราครับ












ทำใจลำบากครับ สวยไปหมด

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณน้าแมวที่มอบให้เราครับ


ชื่นชมกันใหญ่


หนูเลือกสีเขียวค่ะ










วันที่ 14 กันยายน 2552 ผมเดินทางขึ้นดอยสามสิบคนเดียวอีกครั้งหนึ่ง ท้ายรถกะบะขับเคลื่อนสี่ล้อของผมบรรทุกสิ่งของเสียเต็มเอี้ยด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกันฝน ถุงใส่ของลายการ์ตูนสีสันสดใส ขนม ของใช้ของเด็กจำพวก ปากกา ดินสอ กระดาษ สบู่ก้อน สิ่งเหล่านี้ผมได้เก็บรวบรวมเมื่อเดินทางไปพักตามโรงแรมต่างๆทั่วโลก บางอย่างไม่มีค่าสำหรับเรา แต่สำหรับคนยากไร้ พวกเขาไม่มีทางเลือกครับ นอกจากนี้ยังมีของใช้ส่วนตัวของผม และสิ่งสำคัญคือ ผมได้บรรทุกความหวัง ความสุข ลงไปหลังรถเสียเต็มที่ ผมเคยสัญญาเด็กๆว่าจะขึ้นไปเยี่ยมพวกเขา จะไปฉายหนังให้พวกเขาดู

ก่อนเดินทางออกจากตัวอำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ ผมแวะซื้อขนมสำหรับนำไปแจกเด็กๆ รวมทั้งข้าวห่อและหนังสือพิมพ์ หนังสืออ่านเล่นเพื่อนำไปฝากให้กับทหารที่ประจำอยู่ที่ด่านตามแนวชายแดน แรงใจและความใฝ่ฝันผลักให้รถที่ผมขับทะยานขึ้นสู่จุดหมายที่ยอดดอย
เด็กๆและคุณครูต่างมารอผมอยู่ตรงประตูทางเข้าหมู่บ้าน ครูบอกว่าเด็กๆตื่นเต้นกันมาก มารอเพื่อที่จะช่วยผมขนของไปที่โรงเรียน ครูบอกว่าถนนลื่นและเละเป็นโคลน ไม่อยากให้ผมเสี่ยงเอารถไปติดหล่ม เด็กๆช่วยกันขนของเดินลงและขึ้นเนินอยู่หลายรอบ ผมกะด้วยสายตา ระยะทางน่าจะอยู่ที่ราว 3 กิโลเมตร ของบางอย่างหนักเอาการ เช่นจอสำหรับฉายภาพยนต์ขนาด 6 คูณ 4.5 เมตร น้ำมันเบนซินสำหรับเติมเครื่องปั่นไฟฟ้า 4 แกลลอน หม้อปรับแรงดันไฟฟ้า ของอีกมากมายจิปาถะ หนูน้อยคนหนึ่งถามผมว่า น้าจะย้ายขึ้นมาอยู่กับพวกเราหรือครับ อีกคนถามว่า น้าย้ายบ้านหรือ
เมื่อเราเดินเท้าไปถึงโรงเรียน เด็กหญิงและเด็กชายตัวน้อยที่ไม่สามารถยกของหนักได้ ได้เข้าแถวรอผมอยู่แล้ว คุณครูบอกให้เด็กทุกคน สวัสดีผม จากนั้นผมจึงเริ่มกิจกรรมแรกคือการ แจกถุงสำหรับใส่ของลายการ์ตูน สีสันสดใส ซึ่งได้รับความเมตตาจากคุณแมว (พีระรัศม์ สุพรรณธะริดา) แห่งบริษัทลักกี้สตาร์การทอจำกัด ซึ่งเป็นเพื่อนของพี่หนู ( SIRIBHODHI K ) Inflight Service Manager คนงามของพวกเรานั่นเอง
จากนั้นผมได้แจ้งครูว่า ให้สอนไปตามปกติ ผมได้เดินบันทึกภาพบรรยากาศทั่วๆไปในระหว่างที่คุณครูสอนเด็กๆ บ่ายวันนั้นฝนเทลงมาอย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น หลังคาห้องเรียนที่มุงด้วยสังกะสีปะทะกับสายฝน ทำให้นักเรียนแทบไม่ได้ยินเสียงของคุณครูที่กำลังอธิบายบทเรียนอยู่
บ่ายโมงกับสิบนาที ปกติแล้วเด็กๆต้องเข้าแถวหน้าเสาธงเพื่อร้องเพลงชาติ เชิญธงลงจากเสาแล้วพับเก็บไว้ ทำอย่างนี้เป็นประจำทุกวันที่มีการเรียนการสอน แต่วันนี้มีเพียงตัวแทนสามคนใส่เสื้อกันฝน ฝ่าสายฝนออกไปปฏิบัติหน้าที่ การเชิญธงลงจากเสาท่ามกลางสายฝนจึงเป็นเรื่องปกติในหน้าฝนเช่นนี้ แต่สำหรับผมมันเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง ซึ่งสื่อถึงความอดทน ซื่อสัตย์และรับผิดชอบต่อหน้าที่
หลังเลิกเรียน บรรดาครูให้เด็กโต 3-4 คนช่วยผมขนสัมภาระเข้าที่พัก ซึ่งผมได้ถูกจัดให้เข้าพักกับบรรดาครูที่บ้านพักครู ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโรงเรียนไปราว 150 เมตร คืนนั้นผมได้ทดสอบฉายภาพยนต์โดยใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟฟ้าและอาศัยผนังบ้านพักครูเป็นจอภาพยนต์ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีครับ ผมต้องทดสอบให้แน่ใจว่า แรงดันไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟฟ้ามีความสม่ำเสมอ เพื่อที่จะฉายจริงให้เด็กๆและคนในหมู่บ้านชมในคืนถัดไป
ผมหลับตาลงด้วยความเพลีย แต่ความฝันนำผมล่องลอยไปแล้ว ลอยไปยังภูเขาสูง ที่นั่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็กๆก้องกังวาลไปทั่วหุบเขา ที่ซึ่งไร้เสียงปืนและการเข่นฆ่า
ผมสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงทหารวิ่งออกกำลังกายแต่เช้ามืด สำหรับบนภูเขาที่หนาวเย็นและกันดารเช่นนี้ กาแฟผสมกึ่งสำเร็จรูปเป็นซองก็เป็นสิ่งที่วิเศษสุดแล้วสำหรับเช้าวันใหม่ หลังอาการเช้า ผมเดินมุ่งสู่โรงเรียนอีกครั้ง ขนมกรุบกรอบเป็นของที่เด็กๆไม่ได้ลิ้มลองบ่อยมากนัก พวกเขาไม่ได้เงินค่าขนมมาโรงเรียนดังนั้น ขนมซองละ 5 บาทเป็นสิ่งที่แพงเกินเอื้อม
ผมมองฝ่าม่านเมฆฝนที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ เห็นตัวอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่อยู่ลิบๆ แต่ข้างล่างด้านโน้นกับข้างบนนี้ต่างกันอย่างลิบลับ
ตอนสายของวันนี้ ผมมอบเสื้อกันฝนให้กับเด็กๆและคุณครู เมื่อครูบอกให้เด็กๆแกะเอาเสื้อกันฝนออกมาใส่เพื่อถ่ายรูปร่วมกัน หลังถ่ายรูปเสร็จ เด็กหลายคนไม่ยอมถอดเสื้อกันฝนออก ทั้งๆที่มีแดดจ้า บางรายเดินกลับเข้าเรียนในชุดกันฝน โลกของเด็กบางครั้งก็ซับซ้อนเกินกว่าที่ผู้ใหญ่อย่างเราจะเข้าใจ


No comments: